ปฏิทิน ทีมจัง

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Canon in D on glass harp การเล่นดนตรี ด้วยแก้ว

Vitas_Opera #2 สุดยอดผู้ชายที่เสียงสูงที่สุดในโลก

อันดับเพลงลูกทุ่งสุดฮิต

มหานครชาร์ต
รายงานเพลงลูกทุ่งฮิตติดชาร์ต 20 อันดับ
ฟังเพลงออนไลน์ จากบ้านมหาเรดิโอ
ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2555
รายงานผลการจัดอันดับ เพลงลูกทุ่งยอดฮิต จากมหานครชาร์ต

อันดับ เพลง
1 ขอใจฉันคืน : จินตหรา พูนลาภ
2 เสียใจกี่ครั้งก็ยังรักเธอ : ไผ่ พงศธร
3 รักได้ครั้งละคนเชื่อใจได้คนละครั้ง : ตั๊กแตน ชลดา
4 ฟ้าเป็นของเธอ : ไชโย ธนาวัฒน์
5 ติดปีกความคิดถึง : เวสป้า อาร์สยาม
6 เมื่อดอกแคร์บาน : ทราย อาร์สยาม
7 11 ร.ด. : ธันวา อาร์สยาม
8 แฟนมหา : กำภู – รัชนีย์
9 คนอ่อนไหวกำลังใจสำคัญที่สุด : ไหมไทย ใจตะวัน
10 ไข่ในหิน : หนวด สะตอ
11 คิดถึงใจจะขาด : ไชโย ธนาวัฒน์
12 ฝากไปบอกเขาที : เอ๋ นพสร
13 ผีบ้าถามทาง : บิ๊กวัน กันทรลักษ์
14 รอเด้อคนดี : ไผ่ พงศธร
15 อ้ายแพ้เขาหรือเจ้าลำเอียง : ไอดิน อภินันท์
16 กลับมาแสดงตัวด่วน : เปาวลี พรพิมล
17 หนุ่มหนองใหญ่ สาวหนองฮี : กำภู – รัชนีย์
18 คนกำลังน้อยใจ : เอิ้นขวัญ วรัญญา
19 ไม่เคยไม่คิดถึง : สุทธิดา ยิ้ม
20 แค่คืบ : กบ+เก๋

ไวโอลินไฟฟ้า (Electric Violin)

ไวโอลินไฟฟ้า (Electric Violin)
ถ้าคุณเล่นไวโอลินในวงดนตรี คุณจะพบว่าเสียงของมันไม่ดังพอที่จะเเข่งกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ เเทนที่จะใช้ไมโครโฟนธรรมดา คุณอาจจะใช้ไวโอลินไฟฟ้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือเปลี่ยนไวโอลินคลาสสิกของคุณให้กลายเป็นไวโอลินไฟฟ้า หรือติดไมโครโฟนแบบมีขายึด ไวโอลินไฟฟ้ายังใช้ฝึกแบบไม่มีเสียงรบกวนเพื่อนบ้านได้อีกด้วยโดยใช้หูฟัง

โดยทั่วไปแล้วไวโอลินไฟฟ้ามี 2 ประเภทด้วยกันคือ แบบแรกแทบจะไม่มีเสียงอะไรเลยถ้าไม่ได้ใช้อุปกรณ์ขยายเสียง แบบที่ 2 คือไวโอลินธรรมดาที่ดัดแปลงให้เป็นไวโอลินไฟฟ้า ซึ่งอย่างหลังสามารถเล่นโดยไม่ใช้อุปกรณ์ขยายเสียงได้เช่นกัน ถือเป็นไวโอลินกึ่งอคุสติกและไฟฟ้าในตัวเดียวกัน

ร้องไห้หาพ่อเธอหรือ - เท่ง เถิดเทิง HD เพลงฮาๆ มาแรง ^^

เพลง Nightingale - Yanni ความหลากหลายของเครื่องดนตรี

วงโยธวาทิต (อังกฤษ: Military Band) คำว่า "วงโยธวาทิต" ในภาษาไทยนั้น เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นโดย นายมนตรี ตราโมท ส่วนรากศัพท์ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Military Band โดยคำว่า Military หมายถึง กองทัพ คำว่า Band หมายถึง วงดนตรี มาจากคำว่า Banda ในภาษาอิตาเลียน ดังนั้น วงโยธวาทิต (Military Band) หมายถึง กลุ่มผู้เล่นเครื่องดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องเป่าลมไม้ เครื่องเป่าทองเหลือง และเครื่องกระทบ วงโยธวาทิตแต่เดิมนั้นตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ทางทหารที่เรียกว่า "วงดุริยางค์ทหาร" ปัจจุบันวงโยธวาทิตได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถบรรเลงในงานต่างๆ ได้นอกเหนือจากการบรรเลงในกองทัพ

ความรู้ เกี่ยวกับ วงออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์สากล

วงออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์สากล เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องดนตรี และผู้บรรเลงจำนวนมาก บทเพลงที่ใช้บรรเลงมีหลายประเภท เช่น ซิมโฟนี คอนแชร์โต โอเวอร์เจอร์ เพลงบรรยายเรื่องราวต่างๆ บรรเลงประกอบการแสดงละครโอเปร่า บรรเลงประกอบการแสดงระบำปลายเท้า เป็นต้น

วงออร์เคสตรา มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งในด้านขนาดของการประสมวง และลักษณะบทเพลงที่ใช้บรรเลง การประสมวงออร์เคสตราในยุคแรกประมาณกลางศตวรรษที่ 17 เครื่องดนตรีหลักจะเป็นเครื่องสายในตระกูลไวโอลิน ต้นศตวรรษที่ 18 เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าชนิดต่างๆ เช่น แตรทรัมเป็ท ถูกนำมาประสมวงด้วย พร้อมทั้งกลองทิมปานี กลางศตวรรษที่ 18 การประสมวงออร์เคสตรามีรูปแบที่เป็นมาตรฐาน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ถูกนำมาประสมวงและมีบทบาทในเพลงมากขึ้น

ตอนต้นศตวรรษที่ 19 เครื่องลมไม้และเครื่องลมทองเหลือง ถูกพัฒนาเทคนิคการบรรเลงเพิ่มมากขึ้น วงออร์เคสตราในยุคนี้ได้ถูกพัฒนาไปทั้ง 2 ด้านพร้อมกัน คือ ด้านขนาดของวงและเทคนิคการบรรเลงใหม่ๆ



การประสมวงออร์เคสตรา แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
2.1 วงแชมเบอร์ออร์เคสตรา
วงแชมเบอร์ออร์เคสตรา หมายถึง วงดนตรีที่ประสมวงด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายในตระกูลไวโอลินเท่านั้น มีผู้บรรเลงจำนวน 16 – 20 คน
2.2 วงซิมโฟนีออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์ซิมโฟนี ประกอบด้วยเครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง เครื่องลิ้มนิ้ว และเครื่องตีกระทบ เป็นลักษณะการประสมวงที่สมบูรณ์ที่สุด ขนาดของวงได้กำหนดโดยผู้บรรเลงในกลุ่มเครื่องสายดังนี้

ภาพที่ 2.1 วงซิมโฟนีออร์เคสตรา คลิกดาวน์โหลดภาพ



1) วงขนาดเล็ก (Small Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 40 – 60 คน
2) วงขนาดกลาง (Medium Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 60 – 80 คน
3) วงขนาดใหญ่ (Full Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 80 คนขึ้นไป

การจัดวงออร์เคสตรา คำนึงถึงความกลมกลืนของเสียงดนตรี กลุ่มเครื่องสายมีจำนวนมากที่สุดในวง ประมาณ 2 ใน3 ของจำนวนผู้บรรเลงทั้งหมด กลุ่มเครื่องสายนั่งอยู่ด้านหน้าสุด ต่อจากนั้นจะเป็นกลุ่มเครื่องลมไม้ กลุ่มเครื่องลมทองเหลืองและกลุ่มเครื่องตีกระทบอยู๋ด้านหลัง

วาทยกร (Conductor) หรือ เรียกว่า ผู้อำนวยเพลง คือผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมวงดนตรี ต้องที่ด้านหน้าวงดนตรี เพื่อกำกับจังหวะ กำกับลีลา และกำกับความดังเบาของบทเพลงที่บรรเลงอยู่ เป็นผู้เชื่อมโยงอารมณ์ และความรู้สึกของผู้ประพันธ์เพลงไปสู่ผู้ฟังเพลง

Maddi Jane - Price Tag (Jessie J) เพลงฮิตติดปาก ^^

Pirates of the Caribbean - Incredible Piano Solo of Jarrod Radnich Filmed by ThePianoGuys

สุดยอดการเล่นเปียโนขั้นเทพ

The World's Most Valuable Guitars ! 10 กีตาร์ที่แพง... ที่สุดในโลก

10. Fender Jag-Stang (Kurt Cobain)

ราคา $ 190,000 (7,600,000 Baht)

Fender Jag-Stang ในปี 1993 เป็นส่วนผสมของรุ่น Jaguar และรุ่น Mustang
และเป็นตัวที่เขาใช้เล่นในช่วงต้นปี 1994

... ต่อมาเขายกกีตาร์ตัวนี้ให้ Michael Stipe แห่งวง " REM "
และ Michael ยังใช้ใน Music Video ของวง ในเพลง " What's the Frequency Kenneth "


Homemade Red Special (Brian May)

ราคา $ 500,000 (20,000,000 Baht)

Brian May ออกแบบและผลิตกีตาร์ Red Special ของเขา ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น และมันก็เป็นกีตาร์ตัวหลักของเขาแต่นั้นมา
May และพ่อของเขา เริ่มทำกีตาร์ตัวนี้ในปี 1962 และมันก็เสร็จสมบูรณ์ในเวลาสองปีต่อมา...

" ตอนกีตาร์เสร็จสมบูรณ์ ผมอายุ 17 ปี ผมอยากได้กีตาร์ที่เสียงเพราะและซาวน์อุ่น แต่งานที่ออกมาภายนอกจะต้องดีด้วย...
เราพยายามจะออกแบบกีตาร์ Solidbody ที่มีคุณสมบัติแบบ Hollowbody อยู่ด้วย โดยเฉพาะเสียง feedback ที่พอดี "

Red Special เป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ในแง่การสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง
สปริงตรงคันโยก ก็เอามาจากขาตั้งมอร์เตอร์ไซค์...
Body ไม้โอ๊ค ก็เอามาจากหิ้งเตาผิงอายุ 500 ปี...
คอกีตาร์มีขนาดใหญ่ ทำให้เกิด warm sustain อันเป็นเอกลักษณ์ของ Special
ระบบสวิตซ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง May ออกแบบให้กับตัวนี้ มี PickUp Single Coil ยี่ห้อ Burns สามตัว
PickUp แต่ละตัวมีสวิตซ์ on/off ของตัวเอง และสวิตซ์ เพิ่ม-ลด ระดับ
ทำให้สร้างโทรเสียงได้มากมายหลายแบบ...
" จะด้วยพรใดในสากลโลกก็ตาม " May กล่าวถึงกีตาร์ของเขา...
" มันจะต้องอยู่ยั่งยืน พอๆกับชีวิตผมนี่แหล่ะ "

8. Number One Strat (Stevie Ray Vaughan)

ราคา $ 600,000 (24,000,000 Baht)

ชื่อ Number One เป็นตัวที่บ่งบอกถึงตัว Stevie มากที่สุด
" Number One " Stratocaster ของ Stevie Ray Vaughan
เป็นกีตาร์ที่ประกอบจาก Vintage Strats มากกว่าหนึ่งตัว ส่วนประกอบหลักของกีตาร์ตัวนี้ คือ
body สี sunburst ปี '63 และ คอปี '63 เช่นกัน แต่คนละตัว
และ Stevie ได้ติด bridge แบบกีตาร์คนถนัดซ้าย เพื่อให้คันโยก ได้อารมณ์แบบ Hendrix



ในวันที่ 9 กรกฎาคม 1990 ก่อนโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตของ Vaughan เพียงหนึ่งสับดาห์
คอกีตาร์ Strat ตัวนี้ก็พัง ด้วยอุบัติเหตุบนเวที จากนั้นมันก็ถูกเอากลับมาต่อกันเหมือนเดิม
และในสภาพที่ฟื้นคืนชีพใหม่ของกีตาร์ตัวนี้ ก็มีชีวิตยืนยาว... กว่าชายที่ทำให้มันเป็น " Number One "


7. Frankenstein Original Homemade (Edward Van Halen)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

กีตาร์ตัวนี้สร้างสรรค์ riff ต่างๆมากมาย เจ้าของผู้โด่งดังใช้เงินแลกมาเพียง 130 เหรียญ เท่านั้น !
Edward Van Halen ซื้อ body ไม้ Ash และคอ ไม้ Maple
เอามาจาก Lina Ellsworth ผู้ผลิตและเป็นเจ้าของ Seattle's Boogie Bodies ในปี 1975
" มันเป็นตัวที่สอง " Van Halen นั่งรำลึกอดีต "ผมให้ตังค์คนขายไป 50 เหรียญ สำหรับ body
ส่วน คอ ก็ได้มาในราคา 80 เหรียญ ผมก็เอาสองชิ้นนี้แหล่ะ มาประกอบกัน ! "

ตอนที่ Van Halen ได้ body มาใหม่ๆ มันเป็นช่องใส่ PickUp Single Coil 3 ตัว
Van Halen ก็ได้ทำการเจาะช่อง เพื่อจะใส่ humbucker ที่ด้านใกล้ bridge ซึ่งเขาได้ใส่ P.A.F.
ที่เอามาจาก ES-335 ปี 1961 ส่วน PickUp ด้านคอกีตาร์ ก็แยกระบบออกไปอย่างสิ้นเชิง

กีตาร์ตัวนี้ เป็นตัวหลักของ Van Halen ในช่วงอัลบัมแรกๆ และการทัวร์ต่างๆ ในช่วงระหว่างการทัวร์ครั้งที่ 2
ของวง Van Halen เปลี่ยน Tremolo ไปเป็น Floyd Rose ที่เป็น prototype ในตอนนั้น
บางครั้งที่ Eddie มันส์บนเวทีมากไปหน่อย จนทำให้คอ Ellsworth ชำรุดเสียหาย
ซึ่งเขาก็ซ่อมโดยเอา " อะไรก็ได้ ที่ใช้ได้ " มาใส่แทน ภาพปุ่ม tone ที่เห็นนี้ เป็นของดั้งเดิม
เพราะปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้ว...

6. Blackie (Eric Clapton)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

และFender Stratocaster ที่เขาซื้อมาในปี 1970 เป็นตัวเก่งที่เขาใช้เล่นในช่วง 1974 - 1985
และเป็นตัวที่ใช้อัดเสียง เพลงอมตะCocain และ Wonderful Tonight

ปัจจุบันเจ้าของคือ Guitar Center ที่ประมูลมาได้ และนำเงินที่ได้จากการประมูล ไปใช้ในการกุศล


5. Strat #001 (David Gilmour)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

Fender Stratocaster เป็นตัวที่ Stamp #001 แต่ไม่ใช่ตัวแรกจริงๆของ Fender รุ่นนี้
แต่คงเป็นเหตุผลพิเศษบางอย่าง ที่พิมพ์เลขนี้

กีตาร์ตัวนี้ เป็นของ David Gilmour มือกีตาร์ Pink Floyd มาโดยตลอด...
ไม่นานมานี้ เขาได้เอากีตาร์ตัวนี้ขึ้นเล่นที่ง่าน Fender Strat Pack Anniversary 2004


4. ES-1275 Doubleneck (Jimmy Page)

ราคา $ 1,500,000 (60,000,000 Baht)

Gibson ES-1275 สีแดงเชอร์รี่ตัวนี้ ยังคงถูกใช้โดยผู้สร้างชื่อให้ตัวมัน คือ Jimmy Page มาถึงทุกวันนี้
" ผมได้กีตาร์ doubleneck นี้มา หลังจากบันทึกเพลง "Stairway to Heaven" " Page กล่าว...
" เป็นเพราะผมต้องการกีตาร์ที่ต่างกัน ในการแสดงสด " ความดังฉุดไม่อยู่ของเพลง "Stairway to Heaven"

บันทึกเสียงโดย Page ด้วย Fender Telecaster ในช่วง Solo
และ Fender Electric XII ในช่วง section 12 สาย ...
ซึ่งทำให้การแสดงสดบนเวทีมีความพิเศษขึ้น
เมื่อมาดูรายละเอียดของ ES-1275 ซึ่งเป็น doubleneck version ของรุ่น SG อันโด่งดังของ Gibson
ซึ่ง Page ได้เป็นคนสั่งทำโดยตรงจากโรงงานของ Gibson ในช่วงปี 1971-1972
รุ่นนี้อยู่ในแค็ตตาล็อก Gibson ธรรมดาๆ จากปี 1962-1966 แต่ก็ไม่เป็นเรื่องยากนัก ที่ Page ได้ทำการสั่งแบบพิเศษ
แฟนพันธุ์แท้ของ Page อาจสังเกตุเห็น doubleneck นี้ในภาพคอนเสิร์ตของ Led Zeppelin
" The Song Remains the Same "

3. Les Paul 1958 (Jimmy Page)

ราคา $ 1,900,000 (76,000,000 Baht)

Gibson Les Paul ปี 1958 เป็นตัวที่ใช้อัด Riff กีตาร์ยอดฮิตระดับโลก อย่างเพลง Rock&Roll, Black Dog
และเป็นตัวที่ใช้เล่นคอนเสิร์ตบ่อยมากๆในช่วงยุค '70



2. Hofner Bass (Paul McCartney)

ราคา $ 3,500,000 (140,000,000 Baht)

Bass ตัวประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี เป็นเบสมือซ้าย ของ Hofner ทรง Violin
เป็นตัวที่ใช้ทั้งอัดเสียง และ เล่นอยู่บ่อยมาก กับวง The Beatles มาตลอด

จะเห็นปรากฏอยู่ในภาพการแสดงในยุคนั้น และ ภาพนิ่งต่างๆมากมายกับเบสตัวนี้


1. Woodstock 1968 Strat (Jimi Hendrix)

ราคา $ 5,500,000 (200,000,000 Baht)

เป็นกีตาร์ตัว ประวัติศาสตร์ ในวงการ Rock History
และเป็นสัญลักษณ์ในยุคของเขาเลย เป็นกีตาร์ตัวที่แพงที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีมา
ถูกขายครั้งแรก ในปี 1990 ราคา $ 320,760.-
ต่อมา... ในปี 1993 ราคา & 1,132,500.-

และในปัจจุบัน เป็นของอภิมหาเศรษฐี จาก Microsoft - Paul Allen

The Ukulele Orchestra of Great Britain สุดยอดการร้องเพลงประสานเสียง คนละเพลง



ในนี้มีอยู่ กี่เพลง มาดูกัน ..

Seed Chart Top 20 [97.5 FM] วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555

20 อันดับเพลงฮิต ประจำสัปดาห์

อันดับที่ 1. 25 hours - คนข้างๆ
อันดับที่ 2. เก้าอี้ไม้ - บอก (ไม่หลอก)
อันดับที่ 3. The Richman Toy - กรรมกู๊
อันดับที่ 4. Singular - Second Chance
อันดับที่ 5. ณัฐ ศักดาทร - ฉันยังอยู่ทั้งคน
อันดับที่ 6. Paradox - Honey Bee
อันดับที่ 7. WhatChaRaWaLee - ร่มสีเทา
อันดับที่ 8. กอล์ฟ พิชญะ - Black Hole
อันดับที่ 9. Friday - นาฬิกา (Clock)
อันดับที่ 10. No More Tear - ความพยายาม
อันดับที่ 11. กัน The Star - Bad Valentine
อันดับที่ 12. น๊อต วรุตม์ - โสด
อันดับที่ 13. แสตมป์ อภิวัชร์ - ชายกลาง ชายกลาง (Feat. สิงโต นำโชค)
อันดับที่ 14. เฟรม AF8 - ณ จุดนี้
อันดับที่ 15. Sqweez Animal - จนวันสุดท้าย (Till I Die) (Feat. แป๋ง Yellow Fang)
อันดับที่ 16. บี้ สุกฤษฎิ์ - ณ บัดNow
อันดับที่ 17. แชมป์ ศุภวัฒน์ - Online on Love
อันดับที่ 18. Cocktail - สาวเซี่ยงไฮ้
อันดับที่ 19. The Yers - คืนที่ปวดร้าว
อันดับที่ 20. Maratree(มารตรี) - ฟ้องจันทร์

จาก Seed Chart Top 20 [97.5 FM]
เครดิต http://plengphor.blogspot.com/2012/02/seed-chart-top-20-975-fm-12-2555.html

เพลง Cry For The Moon - Epica เพลงประกอบซาวด์แทร็กภาพยนต์



เพลง สไตล์ ร็อคเมทัล ที่ผสมผสานดนตรี เรียบแรงเสียงประสานได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความเข้มแข็ง ความน่าเกรงขาม

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

แนะนำเครื่องดนตรีพื้นบ้านครับ



ขลุ่ยนกไม้ไผ่

ปล้องไม้ไผ่ เชื่อมต่อกับ ไม้ซางในส่วนที่ใช้ปากเป่า
เวลาเล่นใส่น้ำลงไปในปล้องไม้ไผ่ แล้วเป่า 
จะมีเสียง คล้ายนกร้อง


ขลุ่ยนกพลาสติกขลุ่ยเสียงนก ทำจากไม้ซางและ พลาสติกหล่อเวลาเล่นใส่น้ำลงไปในตัวนกแล้วเป่า


จั๊กจั่น
เป็นของเล่นพื้นบ้านที่มีมานาน
เลียนเสียงจั๊กจั่น วิธีเล่น คือ แกว่งไม้
ให้ตัวทรงกระบอก หมุนรอบๆไม้ 
แล้วก็จะเกิดเสียง คล้าย แมลงจั๊กจั่น
หลายๆคนคงจะเคยเห็นกัน
คนขายมักจะเดินเร่ขาย ตามงานวัด
ถือท่อนไม้พันด้วยฟาง  แล้ว ปักเสียบด้วย
ของเล่นต่างๆ หลายชนิด


ขิก , กระดึง
ไม่ใช่เครื่องดนตรี ผู้ที่อยู่ชนบทน่าจะรู้จักกันดี
ทำจากวัสดุพื้นบ้าน  นำมาประกอบและ ประดิษฐ์ขึ้นมา 
เป็นอุปกรณ์ แขวนห้อยคอ วัว ควาย เพื่อให้เกิดเสียง 
พอได้ยินเสียงนี้ก็ทำให้ หวนคำนึงถึง กลิ่นไอ 
บรรยากาศท้องทุ่งได้เป็นอย่างดี


หวูด , โหวด
หวูด หรือ โหวด เครื่องดนตรีทางภาคอิสานของไทย
มีวิธีเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนเครื่องดนตรี
ชนิดใดๆ คือ ใช้ส่วนปลาย(สีดำ) แนบกับใต้ริมฝีปาก
เหนือคาง แล้วใช้ปากผิว ผ่านลำไม้ซาง ที่มีลักษณะเป็น
ท่อที่มีความยาวสั้นไล่กันไป ทำให้เกิดเป็นเสียง
โน้ตดนตรีต่างๆ เวลาเล่นก็ใช้มือจับแกนด้านปลาย
แล้วหมุนไปมา แล้ว ผิวผ่านลำท่อ คนที่ผิวเก่งๆ
ให้เสียงที่ไพเราะมาก




แกว
สื่อสารกันอยู่นานกับคนขาย กว่าจะสะกด และ
เรียกชื่อเครื่องดนตรีชิ้นนี้ได้  "แกว" เป็นเครื่องดนตรี
ชาวเขา ชาวปะกากะยอ  ให้เสียงทุ้มกังวาล  
ชิ้นนี้ทำด้วยไม้สัก คาดว่าประยุกต์ดัดแปลงขึ้นมา
ทีหลัง จากของดั่งเดิมทำจากเขาสัตว์ 
วิธีเล่น เป่าและดูด ตรงรูช่องดังรูป
แล้วใช้นิ้วมือ อุดเสียงด้านปลายทั้งสอง 
เปิด-ปิด สลับกันไป เกิดเป็นเสียงสูงต่ำ   
(ปกติตอนซื้อมาใหม่ๆ เสียงจะดูดีกว่านี้ผมเอานิ้วไปเขี่ย
ตรงลิ้นส่วนที่เป่าเล่นทำให้ เสียงเพี้ยนๆแปลกๆไป)