ปฏิทิน ทีมจัง

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Canon in D on glass harp การเล่นดนตรี ด้วยแก้ว

Vitas_Opera #2 สุดยอดผู้ชายที่เสียงสูงที่สุดในโลก

อันดับเพลงลูกทุ่งสุดฮิต

มหานครชาร์ต
รายงานเพลงลูกทุ่งฮิตติดชาร์ต 20 อันดับ
ฟังเพลงออนไลน์ จากบ้านมหาเรดิโอ
ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2555
รายงานผลการจัดอันดับ เพลงลูกทุ่งยอดฮิต จากมหานครชาร์ต

อันดับ เพลง
1 ขอใจฉันคืน : จินตหรา พูนลาภ
2 เสียใจกี่ครั้งก็ยังรักเธอ : ไผ่ พงศธร
3 รักได้ครั้งละคนเชื่อใจได้คนละครั้ง : ตั๊กแตน ชลดา
4 ฟ้าเป็นของเธอ : ไชโย ธนาวัฒน์
5 ติดปีกความคิดถึง : เวสป้า อาร์สยาม
6 เมื่อดอกแคร์บาน : ทราย อาร์สยาม
7 11 ร.ด. : ธันวา อาร์สยาม
8 แฟนมหา : กำภู – รัชนีย์
9 คนอ่อนไหวกำลังใจสำคัญที่สุด : ไหมไทย ใจตะวัน
10 ไข่ในหิน : หนวด สะตอ
11 คิดถึงใจจะขาด : ไชโย ธนาวัฒน์
12 ฝากไปบอกเขาที : เอ๋ นพสร
13 ผีบ้าถามทาง : บิ๊กวัน กันทรลักษ์
14 รอเด้อคนดี : ไผ่ พงศธร
15 อ้ายแพ้เขาหรือเจ้าลำเอียง : ไอดิน อภินันท์
16 กลับมาแสดงตัวด่วน : เปาวลี พรพิมล
17 หนุ่มหนองใหญ่ สาวหนองฮี : กำภู – รัชนีย์
18 คนกำลังน้อยใจ : เอิ้นขวัญ วรัญญา
19 ไม่เคยไม่คิดถึง : สุทธิดา ยิ้ม
20 แค่คืบ : กบ+เก๋

ไวโอลินไฟฟ้า (Electric Violin)

ไวโอลินไฟฟ้า (Electric Violin)
ถ้าคุณเล่นไวโอลินในวงดนตรี คุณจะพบว่าเสียงของมันไม่ดังพอที่จะเเข่งกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ เเทนที่จะใช้ไมโครโฟนธรรมดา คุณอาจจะใช้ไวโอลินไฟฟ้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือเปลี่ยนไวโอลินคลาสสิกของคุณให้กลายเป็นไวโอลินไฟฟ้า หรือติดไมโครโฟนแบบมีขายึด ไวโอลินไฟฟ้ายังใช้ฝึกแบบไม่มีเสียงรบกวนเพื่อนบ้านได้อีกด้วยโดยใช้หูฟัง

โดยทั่วไปแล้วไวโอลินไฟฟ้ามี 2 ประเภทด้วยกันคือ แบบแรกแทบจะไม่มีเสียงอะไรเลยถ้าไม่ได้ใช้อุปกรณ์ขยายเสียง แบบที่ 2 คือไวโอลินธรรมดาที่ดัดแปลงให้เป็นไวโอลินไฟฟ้า ซึ่งอย่างหลังสามารถเล่นโดยไม่ใช้อุปกรณ์ขยายเสียงได้เช่นกัน ถือเป็นไวโอลินกึ่งอคุสติกและไฟฟ้าในตัวเดียวกัน

ร้องไห้หาพ่อเธอหรือ - เท่ง เถิดเทิง HD เพลงฮาๆ มาแรง ^^

เพลง Nightingale - Yanni ความหลากหลายของเครื่องดนตรี

วงโยธวาทิต (อังกฤษ: Military Band) คำว่า "วงโยธวาทิต" ในภาษาไทยนั้น เป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นโดย นายมนตรี ตราโมท ส่วนรากศัพท์ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Military Band โดยคำว่า Military หมายถึง กองทัพ คำว่า Band หมายถึง วงดนตรี มาจากคำว่า Banda ในภาษาอิตาเลียน ดังนั้น วงโยธวาทิต (Military Band) หมายถึง กลุ่มผู้เล่นเครื่องดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องเป่าลมไม้ เครื่องเป่าทองเหลือง และเครื่องกระทบ วงโยธวาทิตแต่เดิมนั้นตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ทางทหารที่เรียกว่า "วงดุริยางค์ทหาร" ปัจจุบันวงโยธวาทิตได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถบรรเลงในงานต่างๆ ได้นอกเหนือจากการบรรเลงในกองทัพ

ความรู้ เกี่ยวกับ วงออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์สากล

วงออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์สากล เป็นวงดนตรีขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องดนตรี และผู้บรรเลงจำนวนมาก บทเพลงที่ใช้บรรเลงมีหลายประเภท เช่น ซิมโฟนี คอนแชร์โต โอเวอร์เจอร์ เพลงบรรยายเรื่องราวต่างๆ บรรเลงประกอบการแสดงละครโอเปร่า บรรเลงประกอบการแสดงระบำปลายเท้า เป็นต้น

วงออร์เคสตรา มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งในด้านขนาดของการประสมวง และลักษณะบทเพลงที่ใช้บรรเลง การประสมวงออร์เคสตราในยุคแรกประมาณกลางศตวรรษที่ 17 เครื่องดนตรีหลักจะเป็นเครื่องสายในตระกูลไวโอลิน ต้นศตวรรษที่ 18 เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าชนิดต่างๆ เช่น แตรทรัมเป็ท ถูกนำมาประสมวงด้วย พร้อมทั้งกลองทิมปานี กลางศตวรรษที่ 18 การประสมวงออร์เคสตรามีรูปแบที่เป็นมาตรฐาน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ถูกนำมาประสมวงและมีบทบาทในเพลงมากขึ้น

ตอนต้นศตวรรษที่ 19 เครื่องลมไม้และเครื่องลมทองเหลือง ถูกพัฒนาเทคนิคการบรรเลงเพิ่มมากขึ้น วงออร์เคสตราในยุคนี้ได้ถูกพัฒนาไปทั้ง 2 ด้านพร้อมกัน คือ ด้านขนาดของวงและเทคนิคการบรรเลงใหม่ๆ



การประสมวงออร์เคสตรา แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
2.1 วงแชมเบอร์ออร์เคสตรา
วงแชมเบอร์ออร์เคสตรา หมายถึง วงดนตรีที่ประสมวงด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายในตระกูลไวโอลินเท่านั้น มีผู้บรรเลงจำนวน 16 – 20 คน
2.2 วงซิมโฟนีออร์เคสตรา หรือวงดุริยางค์ซิมโฟนี ประกอบด้วยเครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง เครื่องลิ้มนิ้ว และเครื่องตีกระทบ เป็นลักษณะการประสมวงที่สมบูรณ์ที่สุด ขนาดของวงได้กำหนดโดยผู้บรรเลงในกลุ่มเครื่องสายดังนี้

ภาพที่ 2.1 วงซิมโฟนีออร์เคสตรา คลิกดาวน์โหลดภาพ



1) วงขนาดเล็ก (Small Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 40 – 60 คน
2) วงขนาดกลาง (Medium Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 60 – 80 คน
3) วงขนาดใหญ่ (Full Orchestra) มีผู้บรรเลงประมาณ 80 คนขึ้นไป

การจัดวงออร์เคสตรา คำนึงถึงความกลมกลืนของเสียงดนตรี กลุ่มเครื่องสายมีจำนวนมากที่สุดในวง ประมาณ 2 ใน3 ของจำนวนผู้บรรเลงทั้งหมด กลุ่มเครื่องสายนั่งอยู่ด้านหน้าสุด ต่อจากนั้นจะเป็นกลุ่มเครื่องลมไม้ กลุ่มเครื่องลมทองเหลืองและกลุ่มเครื่องตีกระทบอยู๋ด้านหลัง

วาทยกร (Conductor) หรือ เรียกว่า ผู้อำนวยเพลง คือผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมวงดนตรี ต้องที่ด้านหน้าวงดนตรี เพื่อกำกับจังหวะ กำกับลีลา และกำกับความดังเบาของบทเพลงที่บรรเลงอยู่ เป็นผู้เชื่อมโยงอารมณ์ และความรู้สึกของผู้ประพันธ์เพลงไปสู่ผู้ฟังเพลง

Maddi Jane - Price Tag (Jessie J) เพลงฮิตติดปาก ^^

Pirates of the Caribbean - Incredible Piano Solo of Jarrod Radnich Filmed by ThePianoGuys

สุดยอดการเล่นเปียโนขั้นเทพ

The World's Most Valuable Guitars ! 10 กีตาร์ที่แพง... ที่สุดในโลก

10. Fender Jag-Stang (Kurt Cobain)

ราคา $ 190,000 (7,600,000 Baht)

Fender Jag-Stang ในปี 1993 เป็นส่วนผสมของรุ่น Jaguar และรุ่น Mustang
และเป็นตัวที่เขาใช้เล่นในช่วงต้นปี 1994

... ต่อมาเขายกกีตาร์ตัวนี้ให้ Michael Stipe แห่งวง " REM "
และ Michael ยังใช้ใน Music Video ของวง ในเพลง " What's the Frequency Kenneth "


Homemade Red Special (Brian May)

ราคา $ 500,000 (20,000,000 Baht)

Brian May ออกแบบและผลิตกีตาร์ Red Special ของเขา ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น และมันก็เป็นกีตาร์ตัวหลักของเขาแต่นั้นมา
May และพ่อของเขา เริ่มทำกีตาร์ตัวนี้ในปี 1962 และมันก็เสร็จสมบูรณ์ในเวลาสองปีต่อมา...

" ตอนกีตาร์เสร็จสมบูรณ์ ผมอายุ 17 ปี ผมอยากได้กีตาร์ที่เสียงเพราะและซาวน์อุ่น แต่งานที่ออกมาภายนอกจะต้องดีด้วย...
เราพยายามจะออกแบบกีตาร์ Solidbody ที่มีคุณสมบัติแบบ Hollowbody อยู่ด้วย โดยเฉพาะเสียง feedback ที่พอดี "

Red Special เป็นสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ในแง่การสร้างสรรค์งานด้วยตัวเอง
สปริงตรงคันโยก ก็เอามาจากขาตั้งมอร์เตอร์ไซค์...
Body ไม้โอ๊ค ก็เอามาจากหิ้งเตาผิงอายุ 500 ปี...
คอกีตาร์มีขนาดใหญ่ ทำให้เกิด warm sustain อันเป็นเอกลักษณ์ของ Special
ระบบสวิตซ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง May ออกแบบให้กับตัวนี้ มี PickUp Single Coil ยี่ห้อ Burns สามตัว
PickUp แต่ละตัวมีสวิตซ์ on/off ของตัวเอง และสวิตซ์ เพิ่ม-ลด ระดับ
ทำให้สร้างโทรเสียงได้มากมายหลายแบบ...
" จะด้วยพรใดในสากลโลกก็ตาม " May กล่าวถึงกีตาร์ของเขา...
" มันจะต้องอยู่ยั่งยืน พอๆกับชีวิตผมนี่แหล่ะ "

8. Number One Strat (Stevie Ray Vaughan)

ราคา $ 600,000 (24,000,000 Baht)

ชื่อ Number One เป็นตัวที่บ่งบอกถึงตัว Stevie มากที่สุด
" Number One " Stratocaster ของ Stevie Ray Vaughan
เป็นกีตาร์ที่ประกอบจาก Vintage Strats มากกว่าหนึ่งตัว ส่วนประกอบหลักของกีตาร์ตัวนี้ คือ
body สี sunburst ปี '63 และ คอปี '63 เช่นกัน แต่คนละตัว
และ Stevie ได้ติด bridge แบบกีตาร์คนถนัดซ้าย เพื่อให้คันโยก ได้อารมณ์แบบ Hendrix



ในวันที่ 9 กรกฎาคม 1990 ก่อนโศกนาฏกรรมการเสียชีวิตของ Vaughan เพียงหนึ่งสับดาห์
คอกีตาร์ Strat ตัวนี้ก็พัง ด้วยอุบัติเหตุบนเวที จากนั้นมันก็ถูกเอากลับมาต่อกันเหมือนเดิม
และในสภาพที่ฟื้นคืนชีพใหม่ของกีตาร์ตัวนี้ ก็มีชีวิตยืนยาว... กว่าชายที่ทำให้มันเป็น " Number One "


7. Frankenstein Original Homemade (Edward Van Halen)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

กีตาร์ตัวนี้สร้างสรรค์ riff ต่างๆมากมาย เจ้าของผู้โด่งดังใช้เงินแลกมาเพียง 130 เหรียญ เท่านั้น !
Edward Van Halen ซื้อ body ไม้ Ash และคอ ไม้ Maple
เอามาจาก Lina Ellsworth ผู้ผลิตและเป็นเจ้าของ Seattle's Boogie Bodies ในปี 1975
" มันเป็นตัวที่สอง " Van Halen นั่งรำลึกอดีต "ผมให้ตังค์คนขายไป 50 เหรียญ สำหรับ body
ส่วน คอ ก็ได้มาในราคา 80 เหรียญ ผมก็เอาสองชิ้นนี้แหล่ะ มาประกอบกัน ! "

ตอนที่ Van Halen ได้ body มาใหม่ๆ มันเป็นช่องใส่ PickUp Single Coil 3 ตัว
Van Halen ก็ได้ทำการเจาะช่อง เพื่อจะใส่ humbucker ที่ด้านใกล้ bridge ซึ่งเขาได้ใส่ P.A.F.
ที่เอามาจาก ES-335 ปี 1961 ส่วน PickUp ด้านคอกีตาร์ ก็แยกระบบออกไปอย่างสิ้นเชิง

กีตาร์ตัวนี้ เป็นตัวหลักของ Van Halen ในช่วงอัลบัมแรกๆ และการทัวร์ต่างๆ ในช่วงระหว่างการทัวร์ครั้งที่ 2
ของวง Van Halen เปลี่ยน Tremolo ไปเป็น Floyd Rose ที่เป็น prototype ในตอนนั้น
บางครั้งที่ Eddie มันส์บนเวทีมากไปหน่อย จนทำให้คอ Ellsworth ชำรุดเสียหาย
ซึ่งเขาก็ซ่อมโดยเอา " อะไรก็ได้ ที่ใช้ได้ " มาใส่แทน ภาพปุ่ม tone ที่เห็นนี้ เป็นของดั้งเดิม
เพราะปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปแล้ว...

6. Blackie (Eric Clapton)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

และFender Stratocaster ที่เขาซื้อมาในปี 1970 เป็นตัวเก่งที่เขาใช้เล่นในช่วง 1974 - 1985
และเป็นตัวที่ใช้อัดเสียง เพลงอมตะCocain และ Wonderful Tonight

ปัจจุบันเจ้าของคือ Guitar Center ที่ประมูลมาได้ และนำเงินที่ได้จากการประมูล ไปใช้ในการกุศล


5. Strat #001 (David Gilmour)

ราคา $ 1,000,000 (40,000,000 Baht)

Fender Stratocaster เป็นตัวที่ Stamp #001 แต่ไม่ใช่ตัวแรกจริงๆของ Fender รุ่นนี้
แต่คงเป็นเหตุผลพิเศษบางอย่าง ที่พิมพ์เลขนี้

กีตาร์ตัวนี้ เป็นของ David Gilmour มือกีตาร์ Pink Floyd มาโดยตลอด...
ไม่นานมานี้ เขาได้เอากีตาร์ตัวนี้ขึ้นเล่นที่ง่าน Fender Strat Pack Anniversary 2004


4. ES-1275 Doubleneck (Jimmy Page)

ราคา $ 1,500,000 (60,000,000 Baht)

Gibson ES-1275 สีแดงเชอร์รี่ตัวนี้ ยังคงถูกใช้โดยผู้สร้างชื่อให้ตัวมัน คือ Jimmy Page มาถึงทุกวันนี้
" ผมได้กีตาร์ doubleneck นี้มา หลังจากบันทึกเพลง "Stairway to Heaven" " Page กล่าว...
" เป็นเพราะผมต้องการกีตาร์ที่ต่างกัน ในการแสดงสด " ความดังฉุดไม่อยู่ของเพลง "Stairway to Heaven"

บันทึกเสียงโดย Page ด้วย Fender Telecaster ในช่วง Solo
และ Fender Electric XII ในช่วง section 12 สาย ...
ซึ่งทำให้การแสดงสดบนเวทีมีความพิเศษขึ้น
เมื่อมาดูรายละเอียดของ ES-1275 ซึ่งเป็น doubleneck version ของรุ่น SG อันโด่งดังของ Gibson
ซึ่ง Page ได้เป็นคนสั่งทำโดยตรงจากโรงงานของ Gibson ในช่วงปี 1971-1972
รุ่นนี้อยู่ในแค็ตตาล็อก Gibson ธรรมดาๆ จากปี 1962-1966 แต่ก็ไม่เป็นเรื่องยากนัก ที่ Page ได้ทำการสั่งแบบพิเศษ
แฟนพันธุ์แท้ของ Page อาจสังเกตุเห็น doubleneck นี้ในภาพคอนเสิร์ตของ Led Zeppelin
" The Song Remains the Same "

3. Les Paul 1958 (Jimmy Page)

ราคา $ 1,900,000 (76,000,000 Baht)

Gibson Les Paul ปี 1958 เป็นตัวที่ใช้อัด Riff กีตาร์ยอดฮิตระดับโลก อย่างเพลง Rock&Roll, Black Dog
และเป็นตัวที่ใช้เล่นคอนเสิร์ตบ่อยมากๆในช่วงยุค '70



2. Hofner Bass (Paul McCartney)

ราคา $ 3,500,000 (140,000,000 Baht)

Bass ตัวประวัติศาสตร์ของโลกดนตรี เป็นเบสมือซ้าย ของ Hofner ทรง Violin
เป็นตัวที่ใช้ทั้งอัดเสียง และ เล่นอยู่บ่อยมาก กับวง The Beatles มาตลอด

จะเห็นปรากฏอยู่ในภาพการแสดงในยุคนั้น และ ภาพนิ่งต่างๆมากมายกับเบสตัวนี้


1. Woodstock 1968 Strat (Jimi Hendrix)

ราคา $ 5,500,000 (200,000,000 Baht)

เป็นกีตาร์ตัว ประวัติศาสตร์ ในวงการ Rock History
และเป็นสัญลักษณ์ในยุคของเขาเลย เป็นกีตาร์ตัวที่แพงที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีมา
ถูกขายครั้งแรก ในปี 1990 ราคา $ 320,760.-
ต่อมา... ในปี 1993 ราคา & 1,132,500.-

และในปัจจุบัน เป็นของอภิมหาเศรษฐี จาก Microsoft - Paul Allen

The Ukulele Orchestra of Great Britain สุดยอดการร้องเพลงประสานเสียง คนละเพลง



ในนี้มีอยู่ กี่เพลง มาดูกัน ..

Seed Chart Top 20 [97.5 FM] วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555

20 อันดับเพลงฮิต ประจำสัปดาห์

อันดับที่ 1. 25 hours - คนข้างๆ
อันดับที่ 2. เก้าอี้ไม้ - บอก (ไม่หลอก)
อันดับที่ 3. The Richman Toy - กรรมกู๊
อันดับที่ 4. Singular - Second Chance
อันดับที่ 5. ณัฐ ศักดาทร - ฉันยังอยู่ทั้งคน
อันดับที่ 6. Paradox - Honey Bee
อันดับที่ 7. WhatChaRaWaLee - ร่มสีเทา
อันดับที่ 8. กอล์ฟ พิชญะ - Black Hole
อันดับที่ 9. Friday - นาฬิกา (Clock)
อันดับที่ 10. No More Tear - ความพยายาม
อันดับที่ 11. กัน The Star - Bad Valentine
อันดับที่ 12. น๊อต วรุตม์ - โสด
อันดับที่ 13. แสตมป์ อภิวัชร์ - ชายกลาง ชายกลาง (Feat. สิงโต นำโชค)
อันดับที่ 14. เฟรม AF8 - ณ จุดนี้
อันดับที่ 15. Sqweez Animal - จนวันสุดท้าย (Till I Die) (Feat. แป๋ง Yellow Fang)
อันดับที่ 16. บี้ สุกฤษฎิ์ - ณ บัดNow
อันดับที่ 17. แชมป์ ศุภวัฒน์ - Online on Love
อันดับที่ 18. Cocktail - สาวเซี่ยงไฮ้
อันดับที่ 19. The Yers - คืนที่ปวดร้าว
อันดับที่ 20. Maratree(มารตรี) - ฟ้องจันทร์

จาก Seed Chart Top 20 [97.5 FM]
เครดิต http://plengphor.blogspot.com/2012/02/seed-chart-top-20-975-fm-12-2555.html

เพลง Cry For The Moon - Epica เพลงประกอบซาวด์แทร็กภาพยนต์



เพลง สไตล์ ร็อคเมทัล ที่ผสมผสานดนตรี เรียบแรงเสียงประสานได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความเข้มแข็ง ความน่าเกรงขาม