ปฏิทิน ทีมจัง

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

แนะนำเครื่องดนตรีพื้นบ้านครับ



ขลุ่ยนกไม้ไผ่

ปล้องไม้ไผ่ เชื่อมต่อกับ ไม้ซางในส่วนที่ใช้ปากเป่า
เวลาเล่นใส่น้ำลงไปในปล้องไม้ไผ่ แล้วเป่า 
จะมีเสียง คล้ายนกร้อง


ขลุ่ยนกพลาสติกขลุ่ยเสียงนก ทำจากไม้ซางและ พลาสติกหล่อเวลาเล่นใส่น้ำลงไปในตัวนกแล้วเป่า


จั๊กจั่น
เป็นของเล่นพื้นบ้านที่มีมานาน
เลียนเสียงจั๊กจั่น วิธีเล่น คือ แกว่งไม้
ให้ตัวทรงกระบอก หมุนรอบๆไม้ 
แล้วก็จะเกิดเสียง คล้าย แมลงจั๊กจั่น
หลายๆคนคงจะเคยเห็นกัน
คนขายมักจะเดินเร่ขาย ตามงานวัด
ถือท่อนไม้พันด้วยฟาง  แล้ว ปักเสียบด้วย
ของเล่นต่างๆ หลายชนิด


ขิก , กระดึง
ไม่ใช่เครื่องดนตรี ผู้ที่อยู่ชนบทน่าจะรู้จักกันดี
ทำจากวัสดุพื้นบ้าน  นำมาประกอบและ ประดิษฐ์ขึ้นมา 
เป็นอุปกรณ์ แขวนห้อยคอ วัว ควาย เพื่อให้เกิดเสียง 
พอได้ยินเสียงนี้ก็ทำให้ หวนคำนึงถึง กลิ่นไอ 
บรรยากาศท้องทุ่งได้เป็นอย่างดี


หวูด , โหวด
หวูด หรือ โหวด เครื่องดนตรีทางภาคอิสานของไทย
มีวิธีเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนเครื่องดนตรี
ชนิดใดๆ คือ ใช้ส่วนปลาย(สีดำ) แนบกับใต้ริมฝีปาก
เหนือคาง แล้วใช้ปากผิว ผ่านลำไม้ซาง ที่มีลักษณะเป็น
ท่อที่มีความยาวสั้นไล่กันไป ทำให้เกิดเป็นเสียง
โน้ตดนตรีต่างๆ เวลาเล่นก็ใช้มือจับแกนด้านปลาย
แล้วหมุนไปมา แล้ว ผิวผ่านลำท่อ คนที่ผิวเก่งๆ
ให้เสียงที่ไพเราะมาก




แกว
สื่อสารกันอยู่นานกับคนขาย กว่าจะสะกด และ
เรียกชื่อเครื่องดนตรีชิ้นนี้ได้  "แกว" เป็นเครื่องดนตรี
ชาวเขา ชาวปะกากะยอ  ให้เสียงทุ้มกังวาล  
ชิ้นนี้ทำด้วยไม้สัก คาดว่าประยุกต์ดัดแปลงขึ้นมา
ทีหลัง จากของดั่งเดิมทำจากเขาสัตว์ 
วิธีเล่น เป่าและดูด ตรงรูช่องดังรูป
แล้วใช้นิ้วมือ อุดเสียงด้านปลายทั้งสอง 
เปิด-ปิด สลับกันไป เกิดเป็นเสียงสูงต่ำ   
(ปกติตอนซื้อมาใหม่ๆ เสียงจะดูดีกว่านี้ผมเอานิ้วไปเขี่ย
ตรงลิ้นส่วนที่เป่าเล่นทำให้ เสียงเพี้ยนๆแปลกๆไป)

อูคูเลเล่ Ukulele

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ อูคูเลเล่ Ukulele

Ukulele มีขนาดมาตราฐานอยู่ทั้งหมด 4 ขนาด โดยขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Tenor, Soprano และ Concert ตามลำดับครับ สำหรับขนาด Soprano, Concert และ Tenor มีวิธีเล่นเหมือนกัน โดยมีการจูนเสียงที่เป็นมาตราฐานสากลทั่วโลก เรียกว่า C tuning ก็คือจูนแบบ GCEA ไล่ลงมาตั้งแต่สายที่ 4(บนสุด) ลงไป สายที่1 (ล่างสุด) ดูวีธีการจูนได้ที่ หน้าตั้งเสียง http://www.ukulelethai.com/ukulele/ukulele-tuning.html
ส่วนขนาด Baritone จะมีการจูนเสียงที่แตกต่างไปจากขนาดอื่นๆ คือ จูนเหมือน 4สายล่างของ กีตาร์ธรรมดา คือ DGBE ซึ่งก็หมายถึง เวลาเราจะจับคอร์ด ก็ต้องจับแตกต่างไปจาก Soprano, Concert และ Tenor ทำให้ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมกัน แต่ก็เริ่มมีผู้ผลิตสาย ukulele หลายราย เริ่มทำสายที่จูนแบบ GCEA สำหรับ ukulele ขนาด Baritone ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ค่อยไ้ด้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากเสน่ห์ของ ukulele ก็คือ ความเล็ก ที่คุณภาพไม่เล็ก ของมัน แต่เจ้า Baritone นี่ มีขนาดใหญ่สุด ทำให้ได้เสียงที่ใหญ่ๆทุ้มๆ คล้ายกีตาร์เกินไป คนก็เลยยังไม่นิยมกัน
Soprano UkuleleSoprano มีขนาดความยาวประมาณ 21 นิ้ว มีจำนวน fret ขนาดมาตราฐานที่ 12 frets ซึ่งจะเป็นจำนวน fret จาก nut ถึงตัว body ที่ 12 frets จูนสายเป็น GCEA โดยถือเป็นขนาดมาตราฐานแท้ๆ ดั้งเดิมของ ukulele ในบางรุ่นก็มีจำนวน fret มากขึ้นเป็น 14 frets หรือมากกว่า แต่จะเป็น fret ที่เพิ่มเข้ามาอยู่บริเวณตัว body แต่ก็ยังมี ukulele บางรุ่น ที่ใช้ตัว body เป็นขนาด soprano แต่ใช้ fingerboard เป็น Concert scale แทน เพื่อเพิ่มจำนวน frets ให้มากขึ้น โดยจะเรียกว่า Super Soprano นอกจากนี้ก็มี บางรุ่นที่ใช้ body เป็น soprano แต่ใช้ fingerboard เป็น tenor scale เช่น Ohana SK-30L Longneck
นักดนตรีที่ใช้ Soprano ขนาดมาตราฐาน เช่น Ohta-san ใช้เล่นเพลง Hawaii
Concert UkuleleConcert มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดนึง โดยมีความยาวประมาณ 23 นิ้ว จูนสายเป็น GCEA มีขนาด fingerboard ที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเช่นกัน โดยจะมีประมาณ 14 ถึง 17 frets ซึ่งจะเป็นจำนวน fret จาก nut ถึงตัว body ที่ 14 frets และบางรุ่นอาจมี fret มากกว่า แต่ก็จะเพิ่มเข้ามาในส่วนของตัว body
Tenor UkuleleTenor มีขนาดใหญ่กว่า concert โดยมีความยาวประมาณ 26 นิ้ว จุนสายเป็น GCEA หรือบางคน จูนเป็น gCEA คือให้สายที่ 4 มีเสียงเป็น G ต่ำ (Low G) มีจำนวน fret ประมาณ 17 ถึง 19 frets โดยจะเป็นจำนวน fret จาก nut ถึงตัว body ที่ 14 frets เหมือนกัน fret ที่เพิ่มเข้ามาจะอยู่ในส่วนของตัว body ผู้ที่เล่นกีตาร์อยู่แล้ว จะชื่นชอบ ukulele ขนาดนี้ เนื่องจากขนาดเสียงที่ใกล้เคียงกีตาร์ และ fingerboard ที่สามารถรองรับ การเล่นตัวโน็ตต่างๆ และการเล่นที่หลากหลาย นักดนตรีที่มืชื่อเสียง เช่น
Jake Shimabukuro ก็ใช้ tenor ในการเล่นเพลง While my guitar gently weeps และ Israel Kamakawiwo'Ole กับเพลง Somewhere Over The Rainbow
Baritone UkuleleBaritone เป็น ukulele ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความยาวประมาณ 30 นิ้ว มีจำนวน fret ประมาณ 19 ถึง 21 frets จูนสายเหมือนกับ 4 สายล่างของกีตาร์ เป็น DGBE จีงทำให้มีรูปแบบในการจับคอร์ด และตัวโน็ต ที่ต่างออกไปจาก ukulele ขนาดอื่นๆ

เธอคือดวงใจของฉัน

ดนตรีเพื่อสุขภาพ



วิธีการนำดนตรีมาใช้เพื่อสุขภาพ มีหลายรูปแบบ ซึ่งจัดเป็นกิจกรรมต่างๆ คือการฟังเพลง การ้องเพลง การเต้นรำ การเล่นดนตรี เป็นต้น
1. การฟังเพลง มีประโยชน์เพื่อผ่อนคลายความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ก่อให้เกิดสมาธิ เราจึงควรหาโอกาสฟังเพลง โดยเลือกเวลาที่ว่างหรือเวลาที่ไม่รีบเร่ง หรือไม่ต้องใช้ความคิด เช่น เวลารับประทานอาหาร ระหว่างการเดินทาง ขณะพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือขณะทำงานบ้าน เป็นต้น หากจะใช้ในที่ทำงาน ควรเลือกเวลา สถานที่และโอกาสที่เหมาะสม เพื่อไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น และควรมีเทปเพลงที่ชื่นชอบหรือโปรดปราน ติดไว้เพื่อหยิบใช้ได้สะดวกทุกเวลาที่ต้องการ 
            เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า คุณควรมีวิทยุเครื่องเล็กๆ ไว้ใกล้ตัวสักเครื่อง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้า หยิบวิทยุเข้าไปในห้องน้ำด้วย เพื่อเปิดฟังเสียงใสๆ กระชับๆ ทำให้มีชีวิตชีวา แจ่มใส กระปรี้กระเปร่า ขณะเดินทางไปทำงาน ควรฟังเพลงช้า มีเสียงร้อง เนื้อร้องที่กังวาลแจ่มใส แต่ในขณะที่ทำงาน หากต้องการฟังเพลงไปด้วย ทำงานไปด้วย ควรฟังเพลงบรรเลง จะช่วยทำให้บรรยากาศทำงานสดชื่นกว่าทำเงียบๆ ยกเว้นเมื่อต้องอาศัยความเงียบในการทำงาน 
            เมื่อขณะต้องการออกกำลังกาย ควรเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็ว กระชับ จะช่วยทำให้อยากออกกำลัง และออกกำลังได้นาน แต่การออกกำลังกายที่ดี ควรเริ่มต้นด้วยการวอร์มร่างกายก่อน โดยออกกำลังกายเบาๆ โดยใช้เพลงจังหวะปานกลาง แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็ว มากขึ้น และกลับมาเป็นจังหวะปานกลาง การออกกำลังที่ได้ผล คือต้องให้อัตราชีพจรมีค่าประมาณ 70% ของอัตราชีพจรสูงสุดของคนคนนั้น (220 ลบด้วยอายุ) จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว ลดไขมัน และยังทำให้อารมณ์สดชื่นแจ่มใสได้ เหนื่อยจากร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดฟิน ออกมา ทำให้เกิดความสุข ในการนี้เพลงช่วยทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ทำให้ประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย เช่นเดียวกัน หากทำงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดมาก เช่น ทำงานบ้าน ควรเปิดเพลงที่สนุกสนาน ร่าเริง ไปด้วย จะช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น และไม่เหนื่อยมาก 
            เวลาที่สะดวกที่สุดเห็นจะเป็นช่วงเวลาว่าง พักผ่อน เช่นในเวลารับประทานอาหาร ขบวนการย่อยอาหารในร่างกายเริ่มทำงาน เสียงดนตรีที่ไพเราะฟังสบายๆ จังหวะช้า จะช่วยทำให้เกิดอารมณ์สุนทรีย์เบิกบาน ทำให้มีผลดีต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร จึงช่วยทำให้สุขภาพดีได้
การฟังดนตรีให้มีประสิทธิภาพนั้น ขึ้นกับปัจจัยร่วมต่อไปนี้ 
            1. คุณภาพของดนตรีที่ฟัง ตลอดจนเครื่องเสียงที่ถ่ายทอดดนตรีออกมา 
            2. สถานที่ ที่เหมาะสมในการฟังเพลง ซึ่งจะช่วยทำให้ฟังเพลงได้ไพเราะขึ้น สร้างบรรยากาศทำให้ผู้ฟังมีอารมณ์อยากฟังเพลง เช่น สถานที่ที่เงียบ ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอก มีอุณหภูมิที่เย็นสบาย ความสวยงาน เป็นระเบียบของห้อง เป็นต้น 
            3. โอกาส ควรเป็นช่วงที่ว่าง เป็นเวลาที่ผู้ฟังมีความพร้อมที่จะฟังเพลง มีอารมณ์ 
            4. ระยะเวลาที่เหมาะสม หากฟังเพลงนานมากไป จะทำให้เกิดความเบื่อ เหนื่อย เมื่อยล้าได้ เพราะประสาทรับฟังทำงานมากไป จึงควรฟังเพลงแต่พอสมควร และหยุดพัก ดีกว่าฟังเพลงทีละหลายชั่วโมง 
            5. ระดับการรับรู้ และ อารมณ์ของผู้ฟัง ประเภทของเพลง ควรเป็นเพลงที่ไพเราะ สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี เช่น มีความสุข สดชื่นแจ่มใส มีพลังกำลังใจ หรือ มีความสงบ ผ่อนคลาย เป็นต้น หลีกเลี่ยงเพลงทำนองเศร้า หดหู่ หรือก่อให้เกิดความตึงเครียด สับสน รำคาญ ตื่นเต้นตกใจ เหนื่อย เป็นต้น เพลงที่มีจังหวะช้า และจังหวะปานกลาง จะได้รับความนิยมมาก เพราะฟังได้แทบทุกโอกาส
2. การร้องเพลง มีประโยชน์เพื่อระบายความตึงเครียดในใจ โดยผ่านการร้องออกมาเป็นทำนอง และ จังหวะ ช่วยบริหารปอด ทำให้ความจุปอดเพิ่มขึ้น ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง และยังเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง ควรร้องเพลงขณะที่มีอารมณ์ ในเวลา และในสถานที่ที่เหมาะสม เช่นในห้องส่วนตัว ห้องน้ำ ห้องพักผ่อน ในรถยนต์ส่วนตัว หรือตามที่ที่ได้รับเชิญ ปัจจุบันมีเครื่องเสียง คาราโอเกะ ช่วยให้ผู้ร้องเพลงไม่เป็นได้หัดร้องเพลง และ เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน โดยเฉพาะเมื่อร้องเป็นกลุ่ม 
            ประเภทของเพลงที่ร้อง ควรเลือกเพลงที่มีระดับเสียงไม่สูงหรือต่ำเกินไป จะได้ไม่เหนื่อยและเลือกเพลงที่มีเนื้อร้องสละสลวย คล้องจองจำง่าย เพเราะ เนื้อหาฟังสบาย สร้างสรรค์ และ ไม่เครียด
3. การเต้นรำ การเคลื่อนไหวให้เข้ากับจังหวะดนตรี มีประโยชน์คือ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ไม่เบื่อหน่าย ผ่อนคลายความตึงเครียด เกิดความสมดุลของร่างกายและจิตใจ ทั้งยังทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงทนทาน เคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น จึงควรหาโอกาสทำกิจกรรมนี้เป็นประจำและสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง โดยเลือกวิธีที่ง่าย สะดวก และ ปลอดภัย ตนตรีจะเป็นสื่อช่วยทำให้อยากเคลื่อนไหวร่างกาย และกระทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การออกกำลังกายทุกวันโดยมีเพลงร่วมด้วย หรือ ขณะฟังเพลงให้ขยับปลายเท้าหรือเคาะมือ ตบมือให้เข้ากับจังหวะเสียงเพลง เป็นต้น
4. การเล่นดนตรี เป็นการแสดงอารมณ์และความรู้สึกของตนเองออกมาโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อ มีประโยชน์คือ ทำให้เกิดสมาธิ มีความสุขเพลิดเพลินเบิกบานใจ มีความมั่นใจ และภูมิใจในตนเอง ควรเป็นเครื่องดนตรีที่ผู้เล่นมีความชอบ มีเวลาที่จะฝึกซ้อม มีโอกาสที่จะได้แสดง ราคาไม่แพง ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก สะดวกต่อการนำติดตัวไปได้ เช่น กีต้าร์ ไวโอลิน หีบเพลงปาก ซอ ขลุ่ย ขิม เป็นต้น 
            หีบเพลงปาก (mouth organ) ใช้ปากเป่าโดยเอามือประคอง เป็นการฝึกบริหารปอด กล้ามเนื้อกระพุ้งแก้ม 
            ไวโอลิน (violin) ใช้สีโดยเหน็บไว้บนบ่าและเอาคางกด มีเสียงกังวาลอ่อนนุ่ม 
            เปียโน (piano) ใช้นิ้วมือทั้งสองข้างกดคีย์ มีเสียงดังกังวาล ฝึกความแข็งแรงของนิ้วมือและการประสานงานของมือทั้งสองข้าง 
            กลองชุด ใช้ตี มีเสียงดังอึกทึก ฝึกการทำงานสัมพันธ์กันระหว่างแขนและขา ทำให้เกิดความแข็งแกร่ง 
            ปัจจุบันมีทางเลือกให้กับประชาชนผู้สนใจดนตรี มากมายหลายรูปแบบ ทั้งเพื่อการศึกษา เพื่อความบันเทิงสุนทรีย์ หรือเพื่อการบำบัดรักษา การหาซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับดนตรี เช่น เครื่องดนตรี เครื่องเสียง เทปเพลง แผ่นเสียง ฯลฯ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ส่วนวิธีที่สะดวก ง่าย และประหยัดที่สุด ก็คือการชมและฟังจากรายการวิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งมีรายการเพลงมากมาย ตลอดทั้งวัน
   
สนุกมากเลยค่ะ

เสียงพิณ อิสาน บ้านเฮา

ดนตรีบำบัดเพื่อชีวิตที่ผาสุขและความสงบของจิตใจ

มีใครเคยถามตัวเองบ้างไหมครับว่า…
เรามีชีวิตอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เพื่ออะไร..
เรากำลังทำอะไร เพื่อสิ่งใด หรือเพื่อใครกันแน่???
ชีวิตเราตั้งแต่หลับตาลงไป…นอน
ตื่นเช้าขึ้นมา…สมองเรา ความคิดเราจดจ่ออยู่กับอะไรบ้าง
เราไปทำงาน…เดินทางออกจากบ้าน
เราเริ่มต้นทำงานตอนอายุ20กว่าๆ
มาตอนนี้…ผ่านเวลาของการทำงานเท่าไรแล้ว…
เราเคยหยุดถามตัวเองสักหน่อยไหมว่า…
เรากำลังทำอะไรกันอยู่ และ ทำไปเพื่อใคร…
คำตอบที่ได้มีมากมาย
บ้่างก็ทำเพื่อครอบครัวได้อยู่สบาย
บ้างทำเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่
บ้างทำเพื่อ แก่เฒ่าไปจะได้ไม่เป็นภาระของใคร
บ้างทำเพื่อหาเงินมาซื้อวัตถุที่ทำให้มีความสนุกหรือมีสุข
บ้างทำไปเพราะมันคือชีวิต ที่ใครๆเขาก็ต้องทำกัน
ไม่เห็นว่าจะต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวว่าเราทำไปเพื่ออะไร
หรือเพื่อใคร…
หมอโจอยากถามสักคำว่า
หลังจากที่ทำให้ครอบครัวได้อยู่สบายแล้วหละ…เราได้อะไร
หลังจากที่ทำเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่แล้วหละ…เราได้อะไร
หลังจากที่ซื้อวัตถุที่ทำให้มีความสนุกหรือมีสุขแล้วหละ…เราได้อะไร
คำตอบ…มันง่ายนิดเดียวครับ
คือ ความมั่นคงทางใจนั่นเอง
ลองนึกดูว่า เราจะมีความสุขยามเห็นคนที่เรารักมีความสุขอย่างไร
จิตใจของเราจะคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น
ยามเห็นลูกหลานเติบโต มีงานที่ดี อยู่สบาย มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้
ยามเห็นพ่อแม่ มีรอยยิ้มภาคภูมิใจที่เราได้ทำอะไรให้ท่าน เลี้ยงดูท่าน
หรือในยามที่เราได้ไปพักผ่อนท่องเที่ยวอย่างมีความสุขกับคนที่เรารัก
มันคือความอิ่มเอมใจ ความสุขใจ
และเมื่อมีมากๆ มันก็คือความมั่นคงทางใจนั่นเอง…
จิตใจของเราจะเบา สบาย ปลอดโปร่ง โล่ง…
เพราะไม่มีอะไรที่เราจะต้องไปคิด ไปพะวง หรือไปคอยห่วงอีกแล้ว
เมื่อเรามีความมั่นคงทางใจเต็มที่…เราก็จะเข้าสู่ช่วงของความสงบทางจิตใจ
และบังเกิดความผาสุขของชีวิตอย่างยั่งยืน…
ทำไมคนที่ยากจน ไม่ได้ลิ้มรสอาหารหรูๆ
ทานผัก หรืออาหารที่พอหาได้ในท้องถิ่น
แต่เมื่อเขามีความผาสุขทางใจ มีความสงบแห่งใจ
ชีวิตของเขาก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว
ชีวิตของเขา เติมไปด้วยความสุข รอยยิ้ม ความสงบ
ทำไมคนรวย เงินเดือนเป็นแสน…
แต่กลับมีคิ้วที่ขมวดจนยุ่งอยู่เสมอๆ
ทำไมต้องกินยานอนหลับเพื่อบังคับให้ร่างกายหลับ
ทำไมต้องวิ่งวุ่นวายเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลา
ทำไมชีวิตถึงไม่สามารถสัมผัสกับความสงบได้เลย…
เพราะว่าเขารู้แค่ว่า
เขายังคงต้องการเงินต้องการวัตถุ…เพิ่มตลอดเวลา
เมื่อยามที่ชีวิตต้องดิ้นรนจนสุดโต่ง
เกลียวเชือกที่มองไม่เห็นได้รัด มัดจิตใจของเขาจนแน่นหนา
ยามนั้น เขาจึงมานั่งทบทวนดูว่า จริงๆแล้วเขาต้องการสิ่งใดกันแน่
เขาจึงจะพยายามเข้าวัด เข้าพบปรึกษาจิตแพทย์กับความเครียด
กับความกลัวต่างๆที่รุมเขาอยู่…
เห็นไหมครับว่า กว่าที่เขาจะรู้สึกว่า จริงๆแล้วเขาต้องการสิ่งไหนกันแน่
เขาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างผิดทิศทางมาเสียครึ่งค่อนชีวิต…
ต่างจากคนที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่มีค่าที่สุดของชีวิต เมื่อรู้และเข้าใจ
ว่าแท้จริงแล้ว คนเราต้องการสิ่งไหน หรือ ต้องการจะไปทางไหนกันแน่
ซึ่งสิ่งนั้น นั่นคือ…
ความสงบของจิตใจ ความมั่นคงของจิตใจ และ ความผาสุขของชีวิตนั่นเอง
ที่หมอโจเขียนมาถึงจุดนี้…
เพียงสะท้อนเรื่องราวแค่บางมุม บางฉากของชีวิตเท่านั้น
เรื่องจริงๆ ชีวิตจริงนั้น
เราต่างก็ต้องพบ เจออะไรๆที่แตกต่างกันออกไปตามฉากที่แต่ละคนเป็นอยู่
คนรวย…ที่เต็มไปด้วความสงบทางใจก็มีให้เห็นมากมาย
คนจน…ที่ชีวิตวุ่นวาย มีแต่ความทุกข์ก็ยังมีให้เห็น
คนที่ต้องทำงานหนัก เพื่ออะไรๆก็ตาม
แต่ก็ยังสามารถหาช่วงเวลาที่มีความสุขทางใจได้บ้าง
ก็ยังมีให้เห็น…
แล้วบทบาทของดนตรีบำบัด มันมาอยู่ตรงไหนของชีวิต
ดนตรีบำบัด…เข้ามาช่วยทำให้เรา
ได้เข้าใกล้ช่วงเวลาแห่งความสุขทางใจได้ง่ายขึ้นครับ
สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็นไม่เท่าลองทำดูนะครับ…
หมอโจหวังว่า บทความนี้จะมีส่วนช่วยให้เพื่อนๆทุกคน
ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
แทนคำอวยพรและของขวัญปีใหม่2555 จากหมอโจ
—————————————-
การใช้ดนตรีบำบัดเพื่อชีวิตที่ผาสุข สร้างความสงบแห่งจิตใจ
นั่งหลับตา มือสองข้างปล่อยทิ้งลงข้างลำตัว ไม่ควรใช้เก้าอี้ที่มีที่วางแขน
ฝึกหายใจเข้าออก ช้าๆ นับไว้ในใจ1-10 ทั้งการหายใจเข้าและออกนะครับ
เอาปลายลิ้นดันเพดานปากแต่เพียงเบาๆตลอดเวลาที่ฝึก
เปิดดนตรีบำบัดที่หมอโจวางให้ในบทความนี้นะครับ
นั่งหายใจเข้าออก ฟังดนตรีบำบัดไปด้วย
จับความรู้สึกของเราเอง
ไม่ต้องไปบังคับให้เห็นภาพอะไรทั้งนั้นครับ
แค่ให้รู้ตัวว่า…เรากำลังคิดถึงอะไรอยู่ก็พอนะครับ
ฝึกวันละนิด แต่ฝึกทุกๆวัน
หมอโจเชื่อมั่นว่า…เพื่อนๆจะได้รับประสบการณ์ที่ดีๆ
ในชีวิตกันทุกคนครับ ด้วยการฝึกดนตรีบำบัด…
ดนตรีบำบัดเพื่อชีวิตที่ผาสุขและความสงบของจิตใจ